ผู้ติดตาม

บ้านสบายใจ^^

When you serious,we're uneasy. But when you smile,we're pleasedly very much.....

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แม่..ไม่คิดเงิน

เจ้าเด็กชายตัวน้อยของเราเข้าไปหาแม่และส่งกระดาษให้ หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนเล้วแม่ก็ก้มลงอ่าน

ค่าตัดหญ้า 5 บาท
ค่าทำความสะอาดห้องผม 1บาท
ค่าไปซื้อของให้แม่ 2.5 บาท
ค่าดูแลน้อง 2.5 บาท
ค่าเอาขยะไปทิ้ง 1 บาท
ค่าได้คะแนนดี 5 บาท
ค่ากวาดสนาม 2 บาท
รวมยอดค้างชำระ 19 บาท
เธอผู้เป็นแม่หยิบปากกาพลิกด้านหลังกระดาษแล้วเขียนว่า
เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้อง แม่ไม่คิดเงิน
เวลาแม่พยาบาลลูกและสวดมนต์ให้ลูก แม่ไม่คิดเงิน
ค่าที่ลูกทำให้แม่เสียน้ำตา แม่ไม่คิดเงิน
ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า พาไปเที่ยว แม่ไม่คิดเงิน
แม้แต่เช้ดน้ำมูกให้ แม่ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูก
เมื่อรวมราคาทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรัก ไม่คิดเงินเหมือนกัน


เมื่อลูกชายของเราอ่านสิ่งที่แม่เขียน น้ำตาหยดโต ก็ไหลออกมา
เขาสบตาแม่และพูดว่าแม่ครับ ผมรักแม่จรงิ ๆ นะครับ
แล้วเขาก็เอาปากกาเขียนตัวโต ๆ ว่า จ่ายหมดแล้ว...แม่จ่ายหมดแล้ว แต่ลูกยังทอนไม่หมด

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บทความดีๆของคำว่ารัก

เราใส่นาฬิกามือซ้าย..ที่ใส่มือซ้ายเพราะถนัดขวา..ยกมือซ้ายขึ้นมาดูเวลาได้ง่าย

แต่ถึงมีนาฬิกาเราก็ชอบไปสายอยู่ดี..นาฬิกาก็แค่บอกเวลา... ไม่ได้ทำให้เราไปเร็วขึ้น
คิดดูแล้ว... หัวใจก็อยู่ทางซ้ายเหมือนกัน..บางทีเราก็คิดนะ... ว่าอวัยวะในร่างกายที่มี 2 ชิ้นจะอยู่สองข้าง

อย่างแขน, ขา, ลูกกะตาทำนองนั้ น...แล้วที่มีชิ้นเดียว... ก็แสดงความโดดของมันอย่างจมูก, สะดือก็อยู่ตรงกลาง... ประมาณนั้น



แล้วทำไม... หัวใจถึงเอียงซ้ายล่ะ?บางทีเราก็คิดว่า... ที่เป็นงั้นก็เพราะใครบางคนอยากเตือนให้เรารู้ว่า ...

หัวใจเราไม่หนักแน่นพอจะอยู่ตรงกลางแล้วก็ไม่มีมากพอจะแบ่งเป็นสองด้วยเหมือนกัน

บทความสอนใจ เหรียญ5 บาทของพ่อ

      ในค่ำคืนนึง… หลังจากกราบพระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้ว คุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบ แล้วบอกลูกว่าพ่อมีอะไรให้ดูซึ่งสำคัญมาก ว่าแล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อเอามือกำไว้ ถึงคุณพ่อของแพง และพ่อที่มีลูกสาวทุกท่านข้างล่างนี้เอาไว้ใช้สอนลูกหลานได้
คุณพ่อถามว่าอยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ ลูกพยักหน้า ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที ลูกทำตาม… คุณพ่อว่า ไม่พอ ต้อง 5 ที และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที จนลูกอุทธรณ์ ก็ลูกอยากทราบนี่คะว่า เป็นอะไร
เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือ เหรียญ 5 บาทธรรมดานี่เอง คุณพ่อหัวเราะ แล้วกำมือกับเหรียญ 5 บาทเดิม ถามว่าอยากดูอีกมั้ย ถ้าอยากดูต้องเขกพื้น 10 ที ลูกว่าหนูรู้แล้วไม่อยากดูค่ะ
คุณพ่อว่า เอ้า.. เขกพื้น 1 ทีก็ได้ ลูกก็บอก ว่าทราบแล้วไม่อยากดูอีกเบื่อ คุณพ่อว่าให้ดูฟรีๆ ก็ได้แล้วก็แบมือออก ลูกก็ดูไปอย่างนั้นเอง คุณพ่อเลยสอนว่า

“นี่นะลูก อะไรที่เป็นความลับ คนมักยอมทำทุกอย่างที่จะได้สมปรารถนา อยากดู อยากรู้ อยากเห็นแต่เมื่อสมปรารถนาแล้ว ดูบ่อย ๆ แล้วก็มักจะเบื่อ ให้ดูฟรี ๆ ยังไม่อยากดูเลย แล้วสิ่งที่พึงหวงแหนสำหรับลูกผู้หญิงเป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไร ไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก“

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ปรัชญาดีๆสอนใจ จากท่าน ว. วัชรเมธี

โกรธแล้ววาง คือ ทางโพธิสัตว์ โกรธแล้วกัด คือ สัตว์สองเท้า
เมื่อความโกรธลดลงหรือหายไป คุณจะพบว่า ถ้าเผลอทำอะไรไปตอนที่โกรธ คงเกิดความเสียหายมากมาย...
ดับโกรธนั้นเป็นเรื่องง่าย แค่เดินออกไปจากจุดที่โกรธ แล้วหาอะไรทำ สักพักหนึ่งดีกรีความโกรธจะลดลงเอง
ความโกรธเป็นอารมณ์ชนิดหนึ่ง เกิดได้ เดี๋ยวก็หายได้ อย่าเพิ่งวิ่งตามมันไปจนเสียหาย