ผู้ติดตาม

บ้านสบายใจ^^

When you serious,we're uneasy. But when you smile,we're pleasedly very much.....

วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

กำลังใจดีๆ ให้ตัวเอง

..ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง และคนฉลาดที่สุด ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..
.. ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..
.. คนที่ไม่เคยหิว ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว ย่อมหอมหวานกว่าเดิม ..
.. อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน อีกคนนึง ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า จะไม่รู้ถึงวันข้างหลัง ..
.. คนเรา
ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น ที่ได้ทำ ..
หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า

ธรรมสวัสดี

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แม่..ไม่คิดเงิน

เจ้าเด็กชายตัวน้อยของเราเข้าไปหาแม่และส่งกระดาษให้ หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนเล้วแม่ก็ก้มลงอ่าน

ค่าตัดหญ้า 5 บาท
ค่าทำความสะอาดห้องผม 1บาท
ค่าไปซื้อของให้แม่ 2.5 บาท
ค่าดูแลน้อง 2.5 บาท
ค่าเอาขยะไปทิ้ง 1 บาท
ค่าได้คะแนนดี 5 บาท
ค่ากวาดสนาม 2 บาท
รวมยอดค้างชำระ 19 บาท
เธอผู้เป็นแม่หยิบปากกาพลิกด้านหลังกระดาษแล้วเขียนว่า
เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้อง แม่ไม่คิดเงิน
เวลาแม่พยาบาลลูกและสวดมนต์ให้ลูก แม่ไม่คิดเงิน
ค่าที่ลูกทำให้แม่เสียน้ำตา แม่ไม่คิดเงิน
ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า พาไปเที่ยว แม่ไม่คิดเงิน
แม้แต่เช้ดน้ำมูกให้ แม่ไม่คิดเงินหรอกจ๊ะลูก
เมื่อรวมราคาทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรัก ไม่คิดเงินเหมือนกัน


เมื่อลูกชายของเราอ่านสิ่งที่แม่เขียน น้ำตาหยดโต ก็ไหลออกมา
เขาสบตาแม่และพูดว่าแม่ครับ ผมรักแม่จรงิ ๆ นะครับ
แล้วเขาก็เอาปากกาเขียนตัวโต ๆ ว่า จ่ายหมดแล้ว...แม่จ่ายหมดแล้ว แต่ลูกยังทอนไม่หมด

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

บทความดีๆของคำว่ารัก

เราใส่นาฬิกามือซ้าย..ที่ใส่มือซ้ายเพราะถนัดขวา..ยกมือซ้ายขึ้นมาดูเวลาได้ง่าย

แต่ถึงมีนาฬิกาเราก็ชอบไปสายอยู่ดี..นาฬิกาก็แค่บอกเวลา... ไม่ได้ทำให้เราไปเร็วขึ้น
คิดดูแล้ว... หัวใจก็อยู่ทางซ้ายเหมือนกัน..บางทีเราก็คิดนะ... ว่าอวัยวะในร่างกายที่มี 2 ชิ้นจะอยู่สองข้าง

อย่างแขน, ขา, ลูกกะตาทำนองนั้ น...แล้วที่มีชิ้นเดียว... ก็แสดงความโดดของมันอย่างจมูก, สะดือก็อยู่ตรงกลาง... ประมาณนั้น



แล้วทำไม... หัวใจถึงเอียงซ้ายล่ะ?บางทีเราก็คิดว่า... ที่เป็นงั้นก็เพราะใครบางคนอยากเตือนให้เรารู้ว่า ...

หัวใจเราไม่หนักแน่นพอจะอยู่ตรงกลางแล้วก็ไม่มีมากพอจะแบ่งเป็นสองด้วยเหมือนกัน

บทความสอนใจ เหรียญ5 บาทของพ่อ

      ในค่ำคืนนึง… หลังจากกราบพระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้ว คุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบ แล้วบอกลูกว่าพ่อมีอะไรให้ดูซึ่งสำคัญมาก ว่าแล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อเอามือกำไว้ ถึงคุณพ่อของแพง และพ่อที่มีลูกสาวทุกท่านข้างล่างนี้เอาไว้ใช้สอนลูกหลานได้
คุณพ่อถามว่าอยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือพ่อ ลูกพยักหน้า ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที ลูกทำตาม… คุณพ่อว่า ไม่พอ ต้อง 5 ที และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที จนลูกอุทธรณ์ ก็ลูกอยากทราบนี่คะว่า เป็นอะไร
เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือ เหรียญ 5 บาทธรรมดานี่เอง คุณพ่อหัวเราะ แล้วกำมือกับเหรียญ 5 บาทเดิม ถามว่าอยากดูอีกมั้ย ถ้าอยากดูต้องเขกพื้น 10 ที ลูกว่าหนูรู้แล้วไม่อยากดูค่ะ
คุณพ่อว่า เอ้า.. เขกพื้น 1 ทีก็ได้ ลูกก็บอก ว่าทราบแล้วไม่อยากดูอีกเบื่อ คุณพ่อว่าให้ดูฟรีๆ ก็ได้แล้วก็แบมือออก ลูกก็ดูไปอย่างนั้นเอง คุณพ่อเลยสอนว่า

“นี่นะลูก อะไรที่เป็นความลับ คนมักยอมทำทุกอย่างที่จะได้สมปรารถนา อยากดู อยากรู้ อยากเห็นแต่เมื่อสมปรารถนาแล้ว ดูบ่อย ๆ แล้วก็มักจะเบื่อ ให้ดูฟรี ๆ ยังไม่อยากดูเลย แล้วสิ่งที่พึงหวงแหนสำหรับลูกผู้หญิงเป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไร ไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก“

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ปรัชญาดีๆสอนใจ จากท่าน ว. วัชรเมธี

โกรธแล้ววาง คือ ทางโพธิสัตว์ โกรธแล้วกัด คือ สัตว์สองเท้า
เมื่อความโกรธลดลงหรือหายไป คุณจะพบว่า ถ้าเผลอทำอะไรไปตอนที่โกรธ คงเกิดความเสียหายมากมาย...
ดับโกรธนั้นเป็นเรื่องง่าย แค่เดินออกไปจากจุดที่โกรธ แล้วหาอะไรทำ สักพักหนึ่งดีกรีความโกรธจะลดลงเอง
ความโกรธเป็นอารมณ์ชนิดหนึ่ง เกิดได้ เดี๋ยวก็หายได้ อย่าเพิ่งวิ่งตามมันไปจนเสียหาย